ดูกีฬาต่างประเทศ

ดูกีฬาต่างประเทศ

ดูกีฬาต่างประเทศ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยชอบใจและได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลกทั้งการรับชมและลงเล่น ด้วยรูปแบบการเล่นระบบทีมที่ใช้ทั้งการวางแผนและความสามารถเฉพาะตัว ส่งผลให้กีฬาฟุตบอลมีทั้งความเบิกบานและความท้า นอกจากนี้ต้นแบบการเล่นยุคใหม่ที่มีความรวดเร็วทันใจมากยิ่งกว่าเดิม ในเกมฟุตบอลจำเป็นที่จะต้องเกิดการปะทะกันอยู่ตลอด การบาดเจ็บปวดจากการเล่นฟุตบอลสามารถกำเนิดขึ้นได้ตลอดช่วงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนท้ายการประลองที่นักกีฬาเริ่มอ่อนล้า อาการบาดเจ็บปวดที่ประสบได้บ่อยครั้งที่สุดคือ การบาดเจ็บปวดกล้ามเนื้อ แต่ก็สามารถประสบการบาดเจ็บปวดอื่น ๆ ที่มีความรุนแรงได้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาด กระดูกข้อเท้าทายหัก หรือการกระทบกระเทือนทางความคิดหรือส่วนที่ใช้ในการคิด (Concussion) ซึ่งขาดไม่ได้จึงควรใช้ช่วงในการรักษาเป็นระยะเวลายาวนาน สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือการเตรียมความพร้อมเพรียงก่อนลงเล่น คุ้มครองอาการบาดเจ็บ และรีบรักษาโดยเร็วทันใจเมื่อได้รับบาดปวด

ดูกีฬาต่างประเทศ

 

สมัครสมาชิก betflix

ดูกีฬาต่างประเทศ สาต้นสายปลายเหตุการบาดปวดจากกีฬาฟุตบอล

สภาพร่างกายไม่พร้อมบ้างมั๊ยแข็งแรง
ถ้าผู้เล่นขาดความพร้อม ทั้งสภาพความฟิตของร่างกายและข้อต่อกล้ามเนื้อ @BFLIX88 หรือมีความไม่สมดุลของร่างกาย ต้นเหตุกลุ่มนี้ก่อให้เกิดการบาดเจ็บปวดทั้งช่วงซ้อมหรือแข่งขันได้

ขาดการวอร์มอัพร่างกายก่อนและหลังลงเล่น

การอบอุ่นร่างกายทั้งก่อนและข้างหลังการลงเล่นจะช่วยให้สภาพข้อต่อและกล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่น ฟุตบอล ประวัติ พร้อมต่อการแข่งขันและรู้สึกตัวฟู โปรแกรมการวอร์มอัพ FIFA 11+ ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดี เผชิญว่าสามารถช่วยลดการบาดเจ็บที่คงกำเนิดขึ้นได้ถึง 30%

เลือกเฟ้นใช้วัสดุไม่เหมาะสมบ้างมั๊ยสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน

การเลือกใช้เครื่องมือ ดังเช่น รองเท้าฟุตบอล หากเลือกเฟ้นใช้ไม่เหมาะสม ดังเช่น ใส่รองเท้าผ้าใบในสนามหญ้า อาจจะเป็นผลให้ลื่นและมีการบาดปวดได้ ในขณะนี้มีสนามกีฬาหญ้าเทียมได้รับความนิยมมากในประเทศไทย ซึ่งจะมีความฝืดและแรงยึดต่อรองเท้าทายมากมายยิ่งกว่าสนามหญ้าจริง หากเลือกเฟ้นใช้รองเท้าสตั้ดปุ่มยาวหรือปุ่มใบมีดก็อาจส่งผลให้กำเนิดแรงเสียดทานมากเกินไปจนมีการบาดปวดร้อนแรงตามมาได้ เหมือนกันกับเครื่องไม้เครื่องมือคุ้มครองป้องกัน อาทิเช่น สนับแข้ง สามารถลดความรุนแรงและลดแรงกระแทกเมื่อเกิดการปะทะได้

ออกกำลังกายเกินระดับความสามารถของร่างกาย

ในณ เวลาการแข่งขันและการฝึกซ้อมที่เข้มข้น จำเป็นจะต้องเกิดการวิ่งสปีด การกระโดด และการกระทบของขาอยู่เป็นประจำ ถ้าผู้เล่นมิได้ประเมินสภาวะร่างกายตัวของเราเองอาจจะมีการบาดเจ็บขึ้นได้จากวิธีใช้งานซ้ำ ๆ หรือ Overuse Injury ตัวอย่างเช่น เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบรอบๆขาหนีบ สะโพก เข่า และข้อเท้า หรืออาจจะเร่าร้อนถึงขั้นกระดูกหักแบบ Stress Fracture ได้ด้วยเช่นกัน

ขาดวิชาความรู้ความรู้ความเข้าใจในกฎข้อปฏิบัติกติกา

ในขณะนี้กีฬาฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ข้อตกลงการแข่งขันชิงชัยอยู่ตลอดเพื่อที่จะให้มีความไม่เป็นอันตรายในการเล่นมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การห้ามใช้ศอก การลงโทษผู้เล่นที่เข้าสกัดทางด้านข้างหลัง หรือการยกเท้าทายสูง หากไม่รู้เรื่องในกติกาก็อาจจะมีผลอันตรายต่อผู้เล่นหรือคู่แข่งขันได้

อุบัติต้นเหตุที่ไม่คาดคิด
เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาปะทะที่จำเป็นต้องใช้ความเร็ว ความแกร่ง คงจะกำเนิดอุบัติต้นเหตุในการประลองได้เสมอ เช่น การกระทบกระเทือนศีรษะ กระดูกหัก หรือกระทั่งภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

อาการบาดเจ็บที่พบในกีฬาฟุตบอล

การเล่นกีฬาฟุตบอลสามารถเจอการบาดปวดได้หลากหลายตำแหน่งโดยเผชิญการบาดปวดหลายครั้งรอบๆต้นขาเข่าข้อเท้าและขาหนีบตามระดับ

1) บาดปวดกล้ามเนื้อต้นขา (Thigh Muscle Injury)

การบาดปวดรอบๆกล้ามเนื้อแฮมสตริง(Hamstring) หรือกล้ามเนื้อหลังหัวเข่า กล้ามเนื้อต้นขาข้างหน้า(Quadriceps) และกล้ามเนื้อต้นขาภายใน (Adductors) ทั้งการอักเสบหรือฉีกขาดเป็นการบาดเจ็บที่พบได้บ่อยครั้งที่สุดในกีฬาฟุตบอล เนื่องด้วยสำหรับในการลงเล่นห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดควรต้องใช้กล้ามเนื้อเหล่านี้สำหรับเพื่อการวิ่ง กระโดด และเตะฟุตบอลอยู่ตลอดช่วงเวลา คงจะเห็นรูปนักกีฬาฟุตบอลวิ่งสปีดด้วยความรวดเร็วทันใจแล้วมีการกระตุกจนไม่อาจจะวิ่งต่อจากนี้เป็นต้นไปได้ ระยะเวลาสำหรับในการพักผ่อนรักษาฟื้นฟูแตกต่างกันสังกัดความร้อนแรงของการบาดเจ็บปวด คงน้อยเพียงไม่กี่วัน หรือร้อนแรงเป็นนับเป็นเวลาหลายเดือนได้ และการบาดปวดซ้ำของกล้ามเนื้อสามารถประสบได้หลายครั้งเช่นเดียวกัน

2) ข้อเท้าทายพลิก (Ankle Sprain)

ข้อเท้าพลิกมักเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการปะทะกันของผู้เล่นมีผลให้ข้อเท้าทายบิดหมุนเยอะเกินไปมีการพลิกของข้อเท้าส่วนใหญ่มักเกิดการพลิกเข้าด้านในทำให้เกิดการบาดปวดของเอ็นทางด้านนอกของข้อเท้าได้หากเป็นไม่เร่าร้อนคงบวมและกดปวดบริเวณเอ็นที่บาดปวดยังเดินลงน้ำหนักพอได้กรณีเอ็นฉีกขาดน้อยจะมีอาการเจ็บปวดบวมค่อนข้างมากมีเลือดคั่งเดินลงน้ำหนักไม่ค่อยได้แต่ถ้ารุนแรงมากหรือเอ็นฉีกขาดทั้งหมดข้อเท้าทายเสียความหนักแน่นปวดบวมมากมีเลือดคั่งเดินลงน้ำหนักไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมคงเกิดภาวะข้อเท้าไม่ไม่เรรวนเรื้อรัง (Chronic Ankle Instability) และจึงควรเข้ารับการผ่าตัดได้

3) เอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด (Anterior Cruciate Ligament – ACL Tear)

แม้เป็นการบาดเจ็บที่มิได้เผชิญบ่อยครั้งที่สุดในกีฬาฟุตบอล แต่เอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาดเป็นการบาดปวดที่เร่าร้อนและเป็นภาพจำของนักฟุตบอลและแฟนบอลได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุว่าไม่สามารถที่จะแข่งขันต่อได้ มักเดินลงน้ำหนักมิได้ และจำเป็นจึงควรเข้ารับการผ่าตัด ใช้ช่วงสำหรับในการรักษารู้สึกตัวฟูยาวนานมากยิ่งกว่า 6 เดือน การบาดปวดมีต้นเหตุมาจากการบิดผิดภาพของข้อเข่า มักได้ยินเสียงเช่นเดียวกับ “ป็อก” ในข้อเข่า มีเข่าบวม โดยในกีฬาฟุตบอลเผชิญว่าส่วนมากเกิดการบาดเจ็บปวดใบหน้านี้โดยที่ไม่มีการปะทะ (Non – Contact Injury) เกิดการควบคุมและออกกำลังกายเพื่อที่จะลดความเสี่ยงสำหรับการเกิดการบาดเจ็บปวดเอ็นไขว้หน้า เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็กเพื่อที่จะซ่อมเอ็นไขว้หน้าเข่า เพื่อรักษารู้สึกตัวฟูให้กลับมาลงเล่นฟุตบอลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

แผลขอบทวาร แผลเล็กแต่ปวดไม่ปกติ

4) บาดปวดหมอนรองเข่าและกระชมกอ่อน (Meniscus & Chondral Injury)

นอกจากการบาดปวดบริเวณเอ็นเข่าถ้ามีการกระแทกหรือบิดไม่ถูกรูปของข้อเข่าสามารถพบการบาดเจ็บของหมอนรองกระชมกเข่าหรือกระดูกอ่อนได้เหมือนกันนักฟุตบอลมักมีอาการเข่าบวมข้างหลังลงเล่นอาจจะมีข้อเข่าล็อคไม่อาจจะเหยียดงอได้สุดเข่าบวมเป็นๆหายๆโดยหากมีภาวะเข่าเหยียดได้ไม่สุดหลังการบาดเจ็บควรจะรีบเผชิญแพทย์เจาะจงทางด้านเวชศาสตร์การกีฬาเพื่อจะสำรวจหาสาต้นเหตุหากเป็นการบาดเจ็บหมอนรองเข่าฉีกแบบเร่าร้อนดังเช่นว่า Lock Bucket Handle Meniscus Tear ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดจึงควรได้รับการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อที่จะเย็บซ่อมหมอนรองเข่าอย่างเร็วทันใจ เพื่อจะป้องกันการกำเนิดภาวะข้อเข่าเสื่อมก่อนวัย

5) บาดเจ็บเอ็นหัวเข่า (Knee Ligament Injury)

หัวเข่าเป็นข้อต่อที่ประสบการบาดเจ็บได้หลายครั้งที่สุดในกีฬาฟุตบอลสามารถเผชิญการบาดปวดได้หลากหลายเส้นเอ็นบริเวณเข่าที่ประสบได้บ่อยมากยกตัวอย่างเช่นเอ็นเข่าข้างใน (Medial Collateral Ligament – MCL) มักมีเหตุที่เกิดจากการกระแทก การปั๊มบอล กำเนิดเข่าบิดเข้าภายใน มีลักษณะอาการบวมข้างในเข่า เหยียดงอเข่าเจ็บ ถ้าบาดเจ็บรุนแรงอาจลงน้ำหนักไม่ไหว ใช้ช่วงสำหรับเพื่อการรักษาขึ้นอยู่กับความเร่าร้อน หากฉีกขาดคงจะต้องพักผ่อนรักษารู้สึกตัวฟูถึง 6 – 8 สัปดาห์ หรือการบาดเจ็บปวดเอ็นลูกสะบ้า (Patellar Tendon) คงจะเกิดขึ้นได้จากวิธีการใช้งานซ้ำ ๆ โดยไม่เกิดการปะทะหรืออุบัติต้นเหตุเกิดขึ้นก็ได้เหมือนกัน มักมีอาการปวดตามแนวเอ็นลูกสะบ้า เจ็บที่กระดูกลูกสะบ้า หรือปุ่มกระดูกหน้าแข้ง การรักษาจึงควรใช้การกายภาเผชิญำบัดรู้สึกตัวฟู ปรับเพิ่มอีกลดความหนักสำหรับการซ้อม และแข่งให้เหมาะสมกับสภาวะนักกีฬา

6) กระดูกหัก (Bone Fracture)

การปะทะในกีฬาฟุตบอลอาจจะเร่าร้อนจนกำเนิดกระดูกหักได้ อย่างเช่น กระดูกหน้าแข้ง กระดูกข้อเท้า กระชมกไหปลาร้า หยิบเป็นการบาดปวดเร่าร้อน ควรจะเคลื่อนไหวให้บางส่วนที่สุด และนำส่งโรงพยาบาลทันที หากมีแผลฉีกขาดเข้าร่วมด้วยจำเป็นจะต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยเร็ว ในกีฬาฟุตบอลมักต้องมีให้ได้ต้องรักษาภาวะกระชมกหักด้วยการผ่าตัดเพื่อจัดเรียงกระชมกให้อยู่ด้านในตำแหน่งที่สมควร และรู้สึกตัวฟูสภาวะข้อต่อและกล้ามเนื้อโดยรอบให้รวดเร็วที่สุด เพื่อที่จะปกป้องภาวะแทรกซ้อนจากการบรรจุเฝือก ดังเช่น ข้อติด กล้ามเนื้อฝ่อลีบ นอกจากการบาดเจ็บจากการปะทะ ในกีฬาฟุตบอลยังเผชิญภาวะกระดูกหักที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการปะทะได้เหมือนกัน แต่เป็นภาวะกระชมกหักล้า (Stress Fracture) ซึ่งมีต้นเหตุมาจากวิธีการใช้งานอย่างหนักเกินไป โดยรอบๆที่ประสบได้บ่อยมาก ดังเช่นว่า กระชมกเท้า (5th Metatarsal Bone) ซึ่งสัมพันธ์กับนักฟุตบอลที่มีอุ้งเท้าสูงมากยิ่งกว่าทั่วไป

7) ภาวะความคิดในหัวกระทบกระเทือน (Head Concussion)

ถ้ามีการปะทะรอบๆศีรษะหรือต้นคอ ผู้เล่นหมดสติ มีอาการชักเกร็ง หรือเจ็บปวดศีรษะมาก สังเกตเห็นรูปซ้อน คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง ชาแขนขา ปวดต้นคอมาก สับสนชุลมุน เป็นสัญญาณของการบาดเจ็บปวดที่ความคิดหรือส่วนที่ใช้ในการคิด เกิดภาวะความคิดหรือส่วนที่ใช้ในการคิดกระทบกระเทือน ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดจะต้องพักผ่อนการฝึกฝนซ้อมหรือแข่งขัน และประสบแพทย์เพื่อที่จะรักษาโดยโดยทันที ภาวะความคิดหรือส่วนที่ใช้ในการคิดกระทบกระเทือนคงจะชี้ให้เห็นอาการที่มากขึ้นตามตอนได้ หากมีอาการผิดทั่วไปควรจะหยุดเล่นและสังเกตดูอาการอย่างสนิทสนม สำหรับเพื่อการกลับมาฝึกซ้อมหรือแข่งขันหลังภาวะส่วนที่ใช้ในการประมวลผลกระทบกระเทือน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อที่จะทำตามข้อแนะนำที่เหมาะสม หากกลับมาลงเล่นก่อนขณะ อาจจะกำเนิดไม่ดีร้ายแรงทั้งต่อตัวนักเตะและกลุ่มฟุตบอลได้

8) ภาวะดวงใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest)

การเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นภาวะฉุกเฉินในกีฬาฟุตบอล แม้เจอได้เล็กน้อยแต่สามารถเผชิญได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งในผู้สูงอายุและในนักกีฬาอาชีพ ถ้าเจอผู้เล่นล้มลงเหมือนหมดสติ โดยมิได้รับการปะทะใด ๆ ให้นึกถึงภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน กลุ่มแพทย์จะต้องรีบดำเนินการช่วยชีวิตโดยการปั๊มหัวใจและติดเครื่องกระตุกหัวใจ AED โดยในทันที ในนักเตะอายุมากยิ่งกว่า 35 ปี มักเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงดวงใจไม่เพียงพอ ส่วนในนักเตะอายุต่ำกว่า 35 ปี คงมีสาเหตุจากความไม่ถูกทั่วไปของกล้ามเนื้อหัวใจ จิตใจเต้นผิดจังหวะ หรือเป็นความไม่ถูกปกติของหัวใจแต่กำเนิดได้ ปัจจุบันนี้ทางสหพันธ์ฟุตบอลช้านานาชาติ (FIFA) ให้ความใส่ใจกับภาวะนี้เป็นเป็นอย่างมาก กลุ่มแพทย์สนามได้รับการฝึกอบรมการกู้ชีพโดยตลอดในทุก ๆรายการแข่งขันชิงชัย ชี้แนะให้นักกีฬาฟุตบอลได้รับการตรวจสอบเช็กร่างกาย สำรวจคลื่นไฟฟ้าจิตใจ และอัลตราซาวนด์หัวใจ (Echocardiography) เสมอๆเพื่อคัดกรองความไม่ถูกทั่วไปก่อนการแข่งขันชิงชัย เพื่อจะความไม่มีอันตรายสูงสุดของนักฟุตบอล

9) บาดเจ็บปวดรอบๆขาหนีบ (Athletic Pubalgia)

ในนักฟุตบอลประสบการบาดเจ็บปวดรอบๆขาหนีบได้บ่อยครั้ง อาจจะมีลักษณะอาการปวดหน่วงรอบๆหัวหน่าว ขาหนีบ หรือมีก้อนนูนขึ้นมา หากนักเตะมีลักษณะอาการบาดเจ็บปวดบริเวณนี้เรื้อรัง ควรจะเข้ารับการสำรวจตัดสินกับแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์การกีฬาเพื่อหาสาสาเหตุ คงมีต้นเหตุที่เกิดจากภาวะไส้เลื่อน (Hernia) การบาดปวดข้อต่อหัวหน่าว (Pubic Symphysis) บาดเจ็บปวดข้อสะโพก (Hip) หรือบาดปวดเอ็นกล้ามเนื้อรอบ ๆ ขาหนีบได้ (Adductor & Iliopsoas) ซึ่งการรักษามักไม่เหมือนกันตามตำแหน่งและต้นเหตุของอาการบาดเจ็บปวด อาจจะจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด อย่างเช่น การผ่าตัดไส้เลื่อน  calvinblanco