สยาม กีฬา ฟุตบอล ไทย

สยาม กีฬา ฟุตบอล ไทย

สยาม กีฬา ฟุตบอล ไทย โดยในปีนี้การแข่งขันชิงชัยกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้วิธีการป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ทีเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันชิงชัยฟุตบอล Revo Thai League ฟุตบอล M-150 แดูเปี้ยนชิพ และ มังกรฟ้า ลีก ที่จะสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ สมกับการรอคอยของทุกๆ คนและเป็นเลิศในสิ่งที่ช่วยผ่อนคลายความทุกข์แก่แฟนฟุตบอลชาวไทยได้ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน

สยาม กีฬา ฟุตบอล ไทย

 

สมัครสมาชิก betflix

สยาม กีฬา ฟุตบอล ไทย เปิดศักราช “ฟุตบอลไทยลีก” สู่ก้าวใหม่ของวงการลูกหนัง สมาคมกีฬาฟุตบอล

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เข้าร่วมกับ บริษัท ไทยลีก @BFLIX88 จำกัด พร้อมทั้ง ผู้ส่งเสริมชั้นนำ ทั้ง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท โอสถสภา จำกัด (หมู่ชน) บริษัท บลู ดราก้อน โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (หมู่ชน) หรือ AIS เดินหน้าเปิดตัวการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ไทยลีก 1-3 ฤดูกาล 2021/2022 พร้อมก้าวสู่ NEW ERA ของวงการลูกหนังไทย ด้วยปรากฎที่ต้องปฏิบัติตามการณ์ที่จะนำพาคนไทยเข้าสู่ยุคใหม่ของกีฬาฟุตบอล

สำหรับฟุตบอลไทยลีกในฤดูกาลนี้ถูกจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “NEW ERA” ดันฟุตบอลไทยเข้าสู่สมัยใหม่อย่างเต็มตัว พร้อม 4 สิ่งใหม่ที่แฟนบอลไทยจะได้แสดงตัวในปีนี้

ศักราชใหม่ นำแฟนบอลไปสู่การแข่งขันแบบปฏิทินใหม่ ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ เตะข้ามปีที่จะยกฐานะฟุตบอลไทยให้ครึกครื้นเพิ่มขึ้น
สายเลือดใหม่ เดินหน้าสู่สมัยทองของนักเตะ Gen ใหม่ ที่พร้อมผลัดใบเพื่อชัยชนะ ดาวรุ่งที่ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของหลากหลายสโมสร พร้อมแล้วที่จะท้าทายชนทุกกลุ่ม
เรื่องในอดีตที่ผ่านมาการรับดูใหม่ ด้วยการเป็นแพลตเอกสาร ฟุตบอลไทย สามารถรับทั้งทางทีวี และออนไลน์ในทุกวิถีทางของ AIS PLAY แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีคุณค่าใช้จ่าย รวมทั้ง Infotainment และสถิติต่างๆ ที่เพียบพร้อมกว่าเดิมให้แฟนบอลร่วมลุ้นกันแบบครึกครื้นเหมือนนั่งเชียร์ติดขอบสนาม

วัฒนธรรมใหม่ ฟุตบอลไทยจะแปรเปลี่ยนเป็นทูตวัฒนธรรมเวลาจังหวัด ที่พร้อมแลกเปลี่ยนแปลงสีสันในแต่ละพื้นที่ให้รวมเป็นหนึ่งเดียว

นายกรวีร์ คำถามนันทกุล ผู้บริหารเจ้าบทบาทจัดการ บริษัท ไทยลีก จำกัด เอ๋ยถึงวิชาการสึกในงานเปิดฤชมกาลฟุตบอลไทยลีกครั้งนี้ว่า “ปีนี้ถือเป็นศักราชใหม่ของฟุตบอลไทย จากการที่พวกเราจะพัฒนาหลายๆสิ่งให้ดีขึ้น ถึงแม้การจัดการแข่งขันชิงชัยจะเป็นไปอย่างยากลำเค็ญ แต่ผมมั่นใจว่าในปีนี้ เป็นปีที่น่าติดตามอย่างยิ่งของวงการฟุตบอลไทย เนื่องด้วยนอกจากพวกเราจะได้เห็นได้ชัดการประลองที่เข้มข้นของทุกลีกอาชีพ ที่พร้อมขับเคี่ยวห่วยงตำแหน่งแชมป์ไปครอง พวกเรายังจะได้ปรากฏสโมสรตัวแทนจากประเทศไทย ได้โชว์ฝีเท้าในเวทีลำดับช้านานาชาติที่บันเทิงใจเข้มข้นไม่แพ้กัน นอกจากการถ่ายทอดสดที่ครั้งนี้ได้ขยายสู่หนทางออนไลน์อย่างเต็มแบบอย่าง แต่ยังคงเน้นเน้นย้ำการถ่ายทำที่มีประสิทธิภาพผ่าน AIS PLAY เป็นพื้นแล้ว ยังมีการสะสมสถิติที่พวกเราได้ OPTA มาช่วยเจาะลึกถึงข้อมูลต่างๆ ที่จะก่อให้การรับดูมีความน่าสนใจขึ้นมากด้วย”

โดยไฮไลท์สำคัญของฟุตบอลไทยลีกในปีนี้คือความร่วมมือของผู้สนับสนุนที่ต้องการผลักดันและส่งเสริมฟุตบอล

M-150 แชมเปียนชิพ ในปีนี้ก็จับเป็นปีที่น่าตื่นเต้น และน่าดึงดูดไม่น้อย การแข่งขันชิงชัยของทั้ง 18 ทีมอดทนจากทั่วทุกภูมิภาค จากการแข่งขันชิงชัยที่ดุเดือดกว่า 360 แมตช์ เพื่อชิงบัลลังก์ความยอดเยี่ยมในสมรภูมิพลังนี้ และ มังกรฟ้า ลีก สมรภูมิแห่งความหวัง ความสำราญ และจิตใจที่พร้อมเผชิญกับทุกอย่าง โดยมุ่งจัดการแข่งขันชิงชัยตั้งแต่เกรดภูมิภาคที่เป็นรากฐานสำคัญไปจนถึงการสร้างพัฒนาการ ให้กับฟุตบอลลีกสูงสุดให้ได้

นายปรัธนา ลีลพนัง ผู้บังคับบัญชาคณะประธาน กลุ่มลูกค้าทั่วๆไป AIS แจกแจงเติมอีกว่า “AIS มีความภูมิใจอย่างมาก ที่ได้เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของก้าวใหม่สำหรับในการอัปเกรดวงการฟุตบอลไทยสู่ NEW ERA ส่งต่อให้คอนเทนต์ความครึกครื้น และอรรถรสสำหรับการรับชมเข้าถึงแฟนบอลชาวไทยได้อย่างทั่วถึงด้วยประสิทธิภาพขององกรค์ทั้งปวง ผ่าน AIS PLAY ซึ่งจะเป็นแพตแบบฟอร์ม ของวงการฟุตบอลไทย ในทุกทางเลือก ทุกแบบอย่าง และทุกช่วงเวลา ทลายข้อตกลงของการรับดูภายใต้สถานการณ์การกระจาย ที่จะเชื่อเรื่องมต่อเรื่องในอดีตที่ผ่านมาการรับชมที่เหมาะสมที่สุด และเต็มอิ่มจุใจมากที่สุดเพื่อคนไทยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเราเชื่อว่าแฟนบอลจะได้รับเรื่องราวที่ผ่านมาใหม่ของการรับดูชั้นเชิง Full HD ที่ดีเยี่ยมที่สุด บน AIS PLAY อย่างแน่ๆ

นอกจากการเคียงข้างวงการฟุตบอลไทยผ่านการนำคอนเทนต์การรับชมสู่สายตาแฟนบอลแล้ว AIS ยังอาจจะเดินหน้าปรับปรุงแพลตฟอร์มฟุตบอลไทย ให้เป็นใจกลางการรับชมฟุตบอลไทยอย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงการมองหาคอนเทนต์กีฬาลำดับชั้นพรีเมี่ยมเข้ามาเติมเต็มให้ AIS PLAY เป็นลำดับ 1 ในโอกาสทางการรับดูกีฬาของคนไทย

ถ้าพินิจช่วงเวลาที่คุณชมการถ่ายทอดสดฟุตบอล, ลงไปเตะในสนามเอง หรือแม้แต่เล่นเกม น่าจะแสดงตัวหรือได้ยินคำศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกีฬาลูกหนังเต็มไปหมด บางคำพวกเราก็รู้อยู่แล้ว แต่บางคำก็ชวนให้สงสัยว่ามันคืออะไร?

บางคำก็เป็นศัพท์ที่ไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก บางคำถึงได้ยินหลายครั้งก็ยังไม่เข้าใจซะที … Main Stand ขอเปิดพจช้านานุกรมฟุตบอล ให้คุณได้รู้ถึงคำศัพท์ที่คนรักกีฬาลูกหนังควรจะทราบ

MAN ON
นี่คือศัพท์ที่นักฟุตบอลทุกคนไม่ว่าจะกูรูหรือสมัครเล่นอาจจะรู้จัก เนื่องด้วยนี่คือคำเตือนให้คนที่ครองบอลอยู่ทราบตัวว่า “กำลังมีนักเตะฝั่งตรงข้ามเข้ามาจากด้านข้างหลัง” จะยิงหรือส่งหรือพลิกตัวไปทางไหนก็ให้รีบคิดรีบทำซะ

สำหรับเมืองไทย เชื่อว่าพวกเราๆ น่าจะคุ้นเคยกับคำว่า “หลังเข้า” ที่ก็แปลความได้ในลักษณะเดียวกัน แต่หากลงสนามโดยมีชาวต่างประเทศอยู่ด้วย กล่าวศัพท์แสงไทยไปน่าจะไม่เข้าใจ ซึ่งนี่แหละ ศัพท์สากลที่คนทั้งโลกเขาทราบกัน

WOODWORK
เราคงจะเคยได้ฟังคำนี้ช่วงดูการถ่ายทอดสดฟุตบอล หรือแม้กระทั้งเล่นเกมอย่าง PES, FIFA กับ FM อยู่เนืองๆ และก็นิยมจะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดความสงสัยว่า มันเป็นยังไงกันแน่?

ซึ่ง “Woodwork” นั้น คือคำที่ใช้เพื่อเรียกกรอบประตูตั้งแต่เสาทั้งสองข้าง ตลอดจนคาน (ที่บางคราวเราคงจะจะคุ้นกับคำว่า Crossbar มากยิ่งกว่า) โดยสาต้นสายปลายเหตุที่เรียกแบบนี้เชื่อเรื่องกันว่ามาจากในสมัยก่อนที่จะเสาและคานสร้างขึ้นมาจากไม้นั่นเอง

NUTMEG
ถ้าเปิดพจช้านานุกรมแล้ว คำว่า “Nutmeg” นั้นจะหมายความว่า “ลูกจันทน์” แต่เพื่อวงการฟุตบอล นี่คือคำที่นักเตะไม่ว่าจะมืออาชีพหรือสมัครเล่นก็ไม่ต้องการได้ยิน เพราะเหตุว่าคำว่า Nutmeg ในบริบทฟุตบอลนั้นหมายถึงว่า “การถูกแตะบอลลอดหว่างขา” ซึ่งหยิบเป็นอะไรที่นำมาซึ่งการทำให้เสียหน้าเป็นอย่างมาก

ส่วนที่มาของคำดังกล่าวมาแล้วข้างต้นยังเป็นที่โต้แย้ง ด้วยเหตุว่าจากหนังสือ Over the Moon, Brian – The Language of Football ของ อเล็กซ์ ลีธ พูดว่าศัพท์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นถูกพัฒนามาจากคำว่า Nut ซึ่งเป็นแสลงที่ใช้เอ่ยถึง “ลูกอัณฑะ” ซึ่งจับยอดเยี่ยมในจุดที่ลูกบอลวิ่งผ่านทางข้างล่าง ทว่าในพจนานุกรมออกซ์ฟอร์ดกลับชี้เฉพาะว่า Nutmeg เป็นสแลงที่ใช้กันมาตั้งแต่ตอนปี 1870s ในยุควิคตอเรีย หมายความถึงความประพฤติที่ทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนคนโง่

แต่ถึงจะมีที่มาอย่างไร ก็จำเป็นต้องยอมรับว่า มันตรงทั้งพฤติกรรม และสิ่งที่ผู้ถูกทำการจำเป็นจะต้องเหน้าจอจริงๆ

OVERLAP
จับเป็นศัพท์ฟุตบอลที่พวกเราโดยส่วนมากจะได้ยินกันหลายครั้งผ่านการถ่ายทอดสด ซึ่งคำว่า “Overlap” นั้นหมายความว่า “การวิ่งสอดมาจากด้านหลัง” ของผู้เล่นที่อยู่ตำแหน่งต่ำลงยิ่งกว่าคนที่ครองบอล ซึ่งจำนวนมากโดยส่วนมากจะเป็นฟูลแบ็ก หรือวิงแบ็กที่เติมเกมมาจากริมเส้น หากพูดให้เห็นรูปก็ขอให้นักถึงสไตล์การเล่นของ โรแบร์โต้ คาร์ลอส หรือที่กำลังสะดุดตาสุดๆ ในปัจจุบันอย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ นั่นแหละ

แถมยังมีศัพท์อีกคำที่เอาไว้ใช้คู่ขยาวนาน นั่นคือคำว่า “Underlap” ซึ่งจะใช้กับผู้เล่นที่ยืนตำแหน่งสูงขึ้นมากยิ่งกว่าคนที่ครองบอล และอยู่ด้านในนั่นเอง

BOX-TO-BOX
ถ้านำคำนี้ไปบรรจุบริบทของสนามฟุตบอลคงพอจะแสดงตัวรูปทันที ซึ่งนั่นก็คือ “จากกรอบเขตโทษถึงกรอบเขตโทษ” คำนี้ส่วนมากจะใช้กล่าวถึงสไตล์การเล่นของกองกลางที่มีสไตล์การเล่นเด่นทั้งรับและรุก วิ่งดีไร้หมด สามารถตัดบอลในรอบๆกรอบเขตโทษของตัวเอง และยังมีแรงเหลือเติมเกมเพื่อขึ้นมาทำประตูในจังหวะต่อเนื่องได้แบบสะดวกๆ

ซึ่งถ้าจะเอ่ยถึงนักเตะราวกับๆ ที่มีสไตล์การเล่นเช่นนี้ ก็มีอยู่คนจำนวนไม่น้อย นำโดยลำดับขั้นตำยาวนานอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, แฟรงค์ แลมพาร์ด หรือ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ก็เข้าข่าย

DEEP-LYING
จับเป็นอีกศัพท์ที่มักจะได้ยินกันเป็นประจำ เมื่อกล่าวถึงตำแหน่งกองกลาง คำอธิบายศัพท์แบบดิ่งตัวก็คือ “แนวลึก” แต่ถ้าลงในตำแหน่งบนสนามแล้ว ก็คือตำแหน่งกองกลางที่ปฏิบัติภารกิจยืนปักหลักคุมเชิงให้กองหลัง ตอนที่ผู้เล่นเข้าร่วมตำแหน่งคนอื่น ขึ้นไปทำเกมบุก ซึ่งถ้ากล่าวว่าตำแหน่งนี้คือ “กองกลางตัวคุมเกม” (Holding Midfielder) ก็ไม่ไม่ถูกอะไร

อย่างไรก็แล้วแต่ กองกลางแนวลึกบางคนก็มีระดับความสามารถในการจ่ายบอล หรือสร้างสรรค์เกมบุกจากตำแหน่งดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นที่สะดุดตามากๆ กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดเป็นอีกตำแหน่งใหม่ที่เรียกว่า “เพลย์เมกเกอร์แนวลึก” (Deep-lying playmaker) หรือในถ้อยคำอิตาลีเรียกว่า “Regista” ซึ่งคนที่ส่งผลให้ศัพท์นี้กลายมีชื่อเสียงโดยทั่วไปคนแรกๆ ก็หนีไม่พ้น อันเดรีย ปีร์โล่ นั่นเอง

FALSE 9
ตามความเข้าใจทั่วๆไป ตำแหน่งเลขลำดับ 9 นั้นหมายความว่าศูนย์หน้า ผู้ที่ยืนอยู่บนสุดในสนาม แต่ในสมัย 2010s ก็ได้เช่นกันเกิดศัพท์ใหม่ขึ้นมา เมื่อคนที่ยืนในตำแหน่งนั้นบนทีมชีท กลับไม่ได้เล่นด้วยสไตล์ที่รู้จักดี

ด้วยเหตุว่าจากเดิมที่ตำแหน่งเบอร์ 9 จะเป็นตำแหน่งที่ปักหลักทำประตูในกรอบเขตโทษเป็นหลัก “เบอร์ 9 หลอก” หรือ “False 9” จะลงมาเชื่อมเกมกับกองกลางด้วย ซึ่งถ้าตัวประกบตามมามาร์กตัวด้วย ก็จะเปิดช่องให้คนอื่น สอดขึ้นไปทำประตูได้ในทันที

ระบบนี้ถูกคิดค้นหาขึ้นโดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในสมัยที่คุม บาร์เซโลน่า และมี ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะต้นแบบ ซึ่งกลุ่มชาติสเปนก็เอาไปต่อยอด โดยใช้ เชส ฟาเบรกาส ยืนตำแหน่งดังที่กล่าวถึงมาแล้ว และรวมทั้งกลายเป็นอีกแท็คติกสำคัญที่ช่วยให้กลุ่มกระทิงดุคว้าแชมป์ ยูโร 2012

POACHER
พูดถึง False 9 กันไปแล้ว ก็อาจจำเป็นจะต้องเอ๋ยถึงศัพท์ที่เอาไว้เรียกศูนย์หน้าเบอร์ 9 แบบเริ่มแรกเสียหน่อย ซึ่งนอกเหนือจากนั้นจะมีศัพท์อย่าง “Targetman” หรือกองหน้าตัวเป้า ที่ทำได้ทั้งยิงประตูแคะคอยค้ำพักบอลแล้ว ยังมีตำแหน่งนี้อีกสไตล์ นั่นคือ “Poacher”

หน้าที่ของศูนย์หน้าสไตล์นี้ก็ไม่มีอะไรให้มากความ “ยิงประตู” เท่านั้นคือสิ่งที่ควรต้องทำ โดยควรมีทั้งความกล้าแกร่งสำหรับเพื่อการปะทะกับกองข้างหลัง รวมทั้งความเร็วสำหรับในการฉีกหนีตัวประกบ ที่สำคัญที่สุดคือจำเป็นจะต้องเด็ดขาด มีจังหวะเดียวจะต้องนำมาซึ่งการทำให้ได้

แต่ถ้าไล่เรียงรายนามของศูนย์หน้าสไตล์นี้ คุณคงรู้สึกอะไรบางสิ่งบางอย่าง เนื่องมาจากทั้ง แกร์ด มุลเลอร์, กาเบรียล บาติสตูต้า, ไมเคิ่ล โอเว่น รวมถึง ฟิลิปโป้ อินซากี้ … พวกเขากลุ่มนี้ห้อยสตั๊ดไปหมดแล้ว นั่นนับได้ว่าศูนย์หน้าสไตล  calvinblanco